🌞อีกหนึ่งอุตสาหกรรมโลกใหม่ที่มีการใช้งานจริงแล้ว และยังพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องคือ อุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งเราจะไม่พูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าเพราะเป็นเพียงช่วงสั้นๆของการเปลี่ยนผ่าน (รถยนต์ในอนาคตจะเป็นรถไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่ปลายทางจริงๆคือรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ)
🌞รถยนต์ไร้คนขับพัฒนาควบคู่ไปกับเทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่รวดเร็วขึ้น (5G) เนื่องจากต้องมีการอัพเดทและคำนวณเส้นทาง รวมถึงต้องเชื่อมต่อกับข้อมูลการจราจรผ่านSmart City ทำให้ระบบจะยิ่งมีเสถียรภาพขึ้นเมื่อเข้าสู่ยุค 6G (ประมาณปี 2028) และจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในยุค 7G (ประมาณปี 2040)
🌞รถยนต์ไร้คนขับมี 5 ระดับ ตามการแบ่งของ Society of Automotive Engineers (SAE) คือ
Level 0 : ไม่มีระบบขับขี่อัตโนมัติ
Level 1 : มีระบบแจ้งเตือนบางอย่าง เช่น เตือนเมื่อออกนอกเลน
Level 2 : รถขับเอง แต่คนขับต้องนั่งหลังพวงมาลัยและมองถนนตลอดเวลา
Level 3 : รถขับเอง คนขับสามารถไม่มองถนนได้ แต่ยังต้องนั่งอยู่หลังพวงมาลัยและพร้อมขับเองเมื่อมีสัญญาณแจ้งเตือน
Level 4 : รถสามารถวิ่งได้เองในเส้นทางที่ตั้งไว้ โดยไม่ขอความช่วยเหลือจากเราเลย
Level 5 : ระบบขับขี่อัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ เพียงเราเอ่ยปาก(หรืออาจแค่คิด)ว่าจะไปไหน รถจะพาเราไปโดยเรียนรู้เส้นทางเอง เหมือนคนที่มีประสบการณ์ขับนับล้านชั่วโมง (ขับเก่ง+ปลอดภัย)
🌞ปัจจุบันมีกว่า 250 บริษัทที่กำลังวิจัยและพัฒนา ในวันนี้เราจะมารู้จัก 3 บริษัทผู้นำในด้านนี้กัน
🔹Tesla
จากยอดขาย 499,550 คันในปี 2020 (เพิ่ม40%จากปีก่อน) ล่าสุด (10 ก.ค. 2021) เพิ่งปล่อยระบบ Autopilot รุ่น beta version 9 ซึ่งจากการประเมินระบบยังอยู่ใน Level2 โดยมีราคาตั้งแต่ 36,990 (Model3) ถึง 129,990 (Plaid) ดอลลาร์สหรัฐ
🔹Waymo
ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำเทคโนโลยีด้านรถยนต์ไร้คนขับในขณะนี้ โดยเน้นเป็นบริการรถแท็กซี่และรถบรรทุก หลังผ่านการวิ่งบนถนนจำลองกว่า 2 หมื่นล้านไมล์ (3.2 หมื่นล้านกม.) และ 20 ล้านไมล์ (32 ล้านกม.) บนถนนจริง ในพื้นที่ 25 เมือง มีการเปิดใช้งานในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบแล้วที่เมือง Phoenix รัฐแอริโซนา, USA (ปี2020) ซึ่งยังคงมีคนขับนั่งหลังพวงมาลัย (คอย Standby เผื่อฉุกเฉิน)
🔹Baidu
ล่าสุดปล่อยบริการแท็กซี่ไร้คนขับ Apollo Go Robotaxi ออกมาแห่งแรกของจีนที่เมืองปักกิ่ง (2 พ.ค. 2021) จำนวน 5 คัน โดยรถไม่มีพนักงานขับรถแต่จะมีคนขับที่เป็นมนุษย์ 1 คนต่อ 1 คัน คอยควบคุมผ่านเครือข่ายสัญญาณ 5G และจะต้องซื้อประกันให้รถยนต์คันละ 5 ล้านหยวนหากขับบนถนนปกติ และ 10 ล้านหยวนหากจะนำรถขึ้นทางด่วน
🌞นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบริษัทที่กำลังเร่งพัฒนาเช่นกัน อาทิ GM Cruise(GM+Microsoft), ZOOX(Amazon), AutoX(Alibaba) เป็นต้น
🌞อุตสาหกรรมโลกอนาคตทุกเรื่องถูกวางแผนไว้อย่างชัดเจน และเชื่อมโยงกันในทุกมิติ สามารถดูวิดิโอเทรนด์โลกอนาคตได้ตามลิงก์ด้านล่าง
